30 สิงหาคม, 2552

ทดสอบ “คัมรี่ ไฮบริด”ลุยในเมือง 25 กม./ลิตร

[b]ทดสอบ “คัมรี่ ไฮบริด”ลุยในเมือง 25 กม./ลิตร [/b]
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 สิงหาคม 2552 12:45 น.




“ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน” โตโยต้า ไม่รอช้า จัดทริปทดสอบรถยนต์ คัมรี่ ไฮบริด ให้กับสื่อมวลชนได้สัมผัสบนท้องถนนจริงหลังจากเคยให้ลองขับสั้นๆ ในสนามทดสอบมาแล้ว สำหรับการทดสอบครั้งนี้โตโยต้าเลือกเส้นทางขับวนรอบกรุงเทพฯ ฝ่าการจราจรที่เป็นจราจลในช่วงบ่ายจนถึงเย็นกินเวลารวมกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อพิสูจน์สมรรถนะด้านอัตราสิ้นเปลืองและความสบายของเบาะให้เห็นกันอย่างเต็มที่


การเดินทางเริ่มต้นจากโรงแรมดุสิตธานีตรงหัวมุมถนนสีลม โดยคัมรี่คันที่ขับเป็นตัวท๊อปสุด ที่มีระบบนำทางเนวิเกเตอร์ แต่ก่อนออกเดินทางมีการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจนเต็มถึงคอถังรถคัมรี่ทั้งหมด 12 คัน ..ความรู้สึกแรกหลังเข้านั่งประจำการในตำแหน่งพลขับ คือ เย็นสบาย แม้ว่ารถจะถูกจอดตากแดดมาตั้งแต่เช้าและเพิ่งจะติดเครื่องตอนที่มาถึงรถ




การเดินทางเริ่มต้นจากโรงแรมดุสิตธานีตรงหัวมุมถนนสีลม โดยคัมรี่คันที่ขับเป็นตัวท๊อปสุด ที่มีระบบนำทางเนวิเกเตอร์ แต่ก่อนออกเดินทางมีการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจนเต็มถึงคอถังรถคัมรี่ทั้งหมด 12 คัน ..ความรู้สึกแรกหลังเข้านั่งประจำการในตำแหน่งพลขับ คือ เย็นสบาย แม้ว่ารถจะถูกจอดตากแดดมาตั้งแต่เช้าและเพิ่งจะติดเครื่องตอนที่มาถึงรถ

เนื่องจากเบาะนั่งมีระบบปรับอากาศเป่าไอเย็นจากใต้เบาะติดตั้งมาด้วยทำให้เบาะนั่งหนังไม่ร้อนแม้จะโดนแดดเผามาแล้ว ถือว่าเป็นออพชันเล็กๆ ที่สร้างความแตกต่างและเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี โดยระบบนี้จะมีทั้งฝั่งคนขับและคนนั่งโดยสารด้านหน้า

เมื่อเข้าประจำการก็จัดแจงปรับตำแหน่งที่นั่งให้พอเหมาะ สังเกตและทดลองใช้งานปุ่มต่างๆ บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมกับเชื่อมต่อระบบบลูทูธของโทรศัพท์เข้าตัวรถคัมรี่ ซึ่งถือว่า ง่ายดายและใช้เวลาราว 1-2 นาทีก็เชื่อมต่อสำเร็จ




เหยียบคันเร่งแรงบิดสูงสุดระดับ 270 นิวตัน ของมอเตอร์ไฟฟ้า ถูกนำมาใช้งานขณะออกตัวพาเจ้าคัมรี่ ไฮบริด เคลื่อนที่จากช่องจอดสู่ถนนพระราม 4 จอดติดไฟแดงแรกไม่กี่อึดใจเครื่องยนต์ก็ติดขึ้นมา เมื่อสังเกตุดูพลังงานที่อยู่ในแบตเตอรี่เหลือเพียงเล็กน้อย ดังนั้นเครื่องยนต์จึงต้องติดเพื่อคงความเย็นภายในรถและรักษาระดับพลังงานในแบตเตอรี่ให้อยู่เกณฑ์ที่เหมาะสม

การขับขี่ช่วงแรกใช้ถนนพระราม4 เข้าสู่ถนนเยาวราชเป็นเวลาบ่ายโมงกว่าๆ สภาพการจราจรเรียกว่าสาหัสมาก รถเต็มทุกช่องทาง ค่อยๆ เคลื่อนที่ตามกันไป หลายจังหวะได้เหยียบคันเร่งเพื่อทดลองดูว่าความเร็วเท่าไหร่เครื่องยนต์จึงจะติด...พบว่าไม่มีความแน่นอนขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่กดและความต้องการจากการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ โดยอยู่ระหว่างความเร็ว 10-40 กม./ชม.(ทุกครั้งที่ออกตัวคัมรี่ ไฮบริดจะใช้แต่มอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น)


บางช่วงเพื่อเร่งให้รถหลุดทันสัญญาณไฟเขียวก็กดคันเร่งคิกดาวน์ตามปกติ การตอบสนองของพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ผสานมาจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำได้อย่างทันใจ ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ ECVT ทำงานราบรื่นไร้รอยต่อ

ขับผ่านถนนเยาวราช เข้ามาวนแถวๆ พาหุรัด แล้วมาแวะพักที่ “พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ” ตรงปากคลองตลาด เมื่อพักจนหายเหนื่อยจึงติดเครื่องยนต์อีกครั้งหรือเรียกอีกอย่างว่า ทำรถให้อยู่ในสภาพพร้อมเดินทาง (เพราะจริงๆ เครื่องยนต์ยังไม่ติด แต่กดคันเร่งรถก็เคลื่อนที่ไปได้)

คราวนี้เลือกใช้ถนนราชดำเนินกลาง ผ่านสนามหลวง มุ่งหน้าย้อนกลับเพื่อไปข้ามสะพานพระราม 8 ในช่วงเวลา บ่าย 3 โมงตรง ซึ่งต้องบอกว่า รถติดสุดยอด เนื่องจากเป็นเวลาโรงเรียนกำลังเลิก ธนาคารกำลังจะปิดทำการ ดังนั้นรถราบนถนนจึงมากเป็นพิเศษ ซึ่งกว่าจะผ่านไปขึ้นสะพานพระราม 8 ได้กินเวลาร่วม 1 ชั่วโมงกับระยะทางไม่ถึง 10 กม.

เมื่อขึ้นสะพานพระราม 8 คราวนี้มีโอกาสกดคันเร่งแบบเต็มๆ เรียกให้คัมรี่ ไฮบริดพุ่งทะยานไปถึงความเร็วระดับ 100 กม./ชม. แต่ก็เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆเข้ามาสู่โหมดรถเต็มทุกช่องทางช่วงลงจากสะพาน เลี้ยวเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์

ช่วงถนนจรัญสนิทวงศ์ มีโอกาสทำความเร็วคงที่ระดับ 50-60 กม./ชม. โดยเครื่องยนต์ทำงานตลอดเวลา และเป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือ เวลาที่เครื่องยนต์ติดจะได้ยินและรู้สึกถึงแรงสะเทือนเมื่อเครื่องยนต์เริ่มทำงาน แต่ถ้ารถวิ่งออกตัวไปแล้วแรงสะเทือนจะลดลงไปเหมือนรถเบนซินปกติ


หลังจากนั้นขับยาวมาจนข้ามสะพานพระราม 7 เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกผ่านรัชโยธิน แล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ท่ามกลางการจราจรหนาแน่นทุกช่องทาง การขับขี่ยังคงสบายๆ เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานสอดประสานอย่างลงตัว จนแล้วจนรอดก็มาถึงจุดพักที่2 ณ คริสตัล พาร์ค

ดื่มน้ำพักผ่อนกันเล็กน้อยเริ่มเดินทางต่อในเวลา 5 โมงเศษๆ นับเวลาเฉพาะที่อยู่บนเบาะคัมรี่ ไฮบริด นานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ยังไม่มีความรู้สึกเมื่อยหรือล้าแต่อย่างใด หลังออกรถเข้าสู่ถนนช่วงนี้มีโอกาสทำความเร็วสูงสุดถึง 120 กม./ชม. เพียงครั้งเดียว ก่อนต้องชะลอและขับด้วยความเร็วราว 50-70 กม./ชม. ตลอดถนนจนถึงถนนเอกมัย เลี้ยวเข้าสุขุมวิท สภาพการจราจรติดหนึบ ก่อนจะมาสิ้นสุดการเดินทางที่ปั๊มเอสโซ่สุดซอยสุขุมวิท 24 พร้อมกับการเติมน้ำมันเพื่อวัดอัตราความสิ้นเปลือง
ผลตัวเลขคันที่ขับวิ่งไปรวมระยะทาง 55.2 กม. เติมน้ำมันไป 2.207 ลิตร คิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองเท่ากับ 25.01 กม./ลิตร ขณะที่มีคนขับรถคัมรี่รุ่น 2.4G เบนซินปกติ ควบคู่ไปในเส้นทางเดียวกัน ผลอัตราสิ้นเปลืองเท่ากับ 7.34 กม./ลิตร เรียกว่า แตกต่างกันหลายเท่า

อย่างไรก็ตาม การขับในวันดังกล่าวคัมรี่ ไฮบริดคันที่ทำสถิติดีที่สุดคือ 26.68 กม./ลิตร และแย่ที่สุดคือ 10.97 กม./ลิตร ส่วนค่าเฉลี่ยทุกคันรวมกันอยู่ราว 17.5 กม./ลิตร โดยรวมการขับขี่คัมรี่ ไฮบริดให้ความรู้สึกที่มั่นคงขึ้นจากน้ำหนักตัวที่มากกว่าเดิมราว 100 กม. และการเซ็ตช่วงล่างใหม่เพื่อให้รับกับแบตเตอรี่ที่อยู่ด้านท้ายรถ

...ถึงบรรทัดนี้ คงไม่ต้องสรุปอะไรกันมากมาย เส้นทางแบบใช้งานจริงกับผลตัวเลขที่สื่อมวลชนขับกันทุกคันมีสถิติการประหยัดน้ำมันดีกว่ารุ่นเบนซินปกติชัดเจน หากคุณเป็นคนที่ต้องใช้งานรถแบบขับในเมืองมากกว่า “คัมรี่ ไฮบริด” คือทางเลือกที่ใช่อย่างไม่ต้องสงสัย

02 สิงหาคม, 2552

คลิป แนะนำรถยนต์ Toyota Camry Hybrid

แนะนำรถยนต์ Toyota Camry Hybrid รถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

01 สิงหาคม, 2552

Toyota Camry Hybrid 2009 Commercial

Toyota Camry Hybrid 2009 Commercial
ชมโฆษณา โตโยต้า แคมรี่ ไฮบริด